เยว่หลันฮัวหมอหญิงจอมอาชา
เยว่หลันฮัวปลอมตัวเป็นชายเข้าไปรักษาม้าในวังหลวง นางพบต้นตอที่ทำให้ม้าป่วยจึงถูกขุนนางชั่วปองร้าย องค์รัชทายาทเข้ามาช่วยจนก่อเกิดเป็นความรัก นางอยากบอกความจริง แต่ติดกฎหมายบ้า ๆ ห้ามผู้หญิงเป็นหมออาชา
ผู้เข้าชมรวม
1,085
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เปรยเรื่อง
เยว่หลันฮัวหมอหญิงจอมอาชา
กฎหมายของเมืองไทเหยียนหม่า ห้ามผู้หญิงเป็นหมออาชา ถือว่าเป็นบาปมหันต์ เพราะม้าป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ ชัยชนะและความเจริญรุ่งเรืองของเมืองนี้ หากหญิงใดผ่าฝืนจะถูกลงโทษสถานหนักหรือถึงขั้นประหารชีวิต เพื่อจะเป็นหมออาชารักษาม้า เจริญรอยตามบิดาและปู่ เยว่หลันฮัวจึงต้องแต่งตัวเป็นผู้ชายเพื่อปกปิดตัวตนแท้จริงมาทั้งชีวิต
แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของนางก็เปลี่ยนไป วันนั้นเป็นวันแต่งตั้งรัชทายาท ผู้คนพากันแต่งตัวอย่างงดงามเพื่อมาเฉลิมฉลองยินดีกับองค์รัชทายาท เยว่หลันฮัวได้เอาชุดของมารดามาใส่เพื่อจะไปร่วมฉลองกับชาวเมือง ขณะที่เยว่หลันฮัวยืนอยู่หน้าร้านขายมุกริมทาง และหยิบสร้อยมุกขึ้นมา ทันใดนั้นก็ถูกชายคนหนึ่งวิ่งมาชนอย่างแรง หากไม่มีมือใครคนหนึ่งมารับร่างของนางไว้ก็คงจะล้มลงกระแทกพื้น
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” ชายผู้คนหนึ่งพูดขึ้น
“ขอบ...คุณ” เยว่หลันฮัวนิ้วหน้าจุกที่ท้องจนพูดไม่ออก
“เจ้าคงเจ็บ” เขาพูด
“ข้า...ไม่...เป็น....ไร” เยว่หลันฮัวพูดไม่ออกได้แต่ส่ายหน้า ตัวง้อ ชายคนนั้นเห็นเธอเข่าอ่อนยืนแทบไม่ไหว เขาจึงช้อนเธอเข้าวงแขนแล้วอุ้มขึ้นมา
“อุ้ย” เยว่หลันฮัวร้องเสียงหลงพลางเงยหน้ามองผ่านแสงตะวันที่ส่องเข้ามา
“ข้าไม่เป็นไร ปล่อยข้า” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง สีหน้าของเธอยังบอกถึงความเจ็บปวด
“ข้าเป็นคนทำให้เจ้าเจ็บจนพูดไม่ออก ดังนั้นข้าควรจะรับผิดชอบเจ้า”
“ท่านไม่ได้ทำ” เยว่หลันฮัวพูดพลางส่ายหัว
แต่แล้วจู่ ก็มีเสียงพูดแทรกขึ้น
“องค์รัชทายาทไททาม” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดเสียงดังแทรกขึัน ผู้คนเดินขวักไขว่และเหล่าทหารม้าที่อยู่บริเวณนั้นก็พากันหันขวับมามอง รวมทั้งบรรดาผู้หญิงที่อยู่ในบริเวณก็หูผึงหันขวับไปมองหา ก่อนจะวิ่งกรูกันไปหา
“หยุดพวกนางไว้” องค์รัชทายาทสั่งทหารเหล่านั้น ก่อนที่พวกหล่อนจะเข้ามาใกล้ เยว่หลันฮัวกว่าจะรู้ว่าคนที่อุ้มอยู่นั้นเป็นรัชทายาทพระองค์ใหม่ที่ชาวเมืองกำลังจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างเอิกเกริก
เขาก็ก้มลงมาจนปลายจมูกเกือบชนกัน นางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ปล่อย..ข้า..ลง” เยว่หลันฮัวพูดตะกุกตะกัก องค์รัชทายาทไททามกระชับวงแขนแน่นขึ้น
“อยู่เฉย ๆ เถอะนะ แม่นางน้อย” องค์รัชทายาทพูดข้างหูเยว่หลันฮัวขณะที่อุ้มหญิงสาวเดินไปตามทาง บรรดาหญิงสาวแต่งตัวเลิศเลอกลิ่นน้ำหอมฟุ้งที่เดินสวนมาต่างก็หันมามองด้วยสายตาอิจฉา ขณะเดียวกันพวกนางก็ถูกทหารกันไว้ไม่ให้เข้าใกล้องค์รัชทายาท
“ข้าหายเจ็บแล้วโดยวางข้าลงเถอะ”
“เจ้านิมีกลิ่นประหลาดที่ข้าไม่เคยพบมาก่อน” องค์รัชทายาทพลางจมูกสูดฟูดฟิด
“นิ องค์ชายทำไมพูดกับข้าอย่างนั้น”
“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าแค่สงสัยการพูดจาของเจ้าและกลิ่นของเจ้า คงไม่ใช่คนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง เพราะหญิงสาวพวกนั้นจะพูดกับข้าด้วยคำราชาศัพท์ และพวกนางก็จะมีกลิ่นแรงของน้ำหอมจากตะวันตก ไม่หอมละมุนอย่างเจ้า”
“หากองค์ชายไม่ปล่อยข้า ข้าจะร้องให้คนช่วย” เยว่หลันฮัวพูดจ้องมององค์ชายอย่างไม่ลดละ องค์ชายไททามหัวเราะอยู่ในลำคอ
“เจ้านี่ฉลาดเสียด้วย หากเจ้าทำอย่างนั้นจริง ๆ ข้าก็คงถูกมองไม่ดี ก็ได้! ข้าจะปล่อยเจ้า” องค์รัชทายาทพูดแล้ววางหญิงสาวลง
แต่ทว่าเขาก็ยังไม่ปล่อยมือเธอ เยว่หลันฮัวพยายามจะชักมือกลับ แต่องค์ชายยึดไว้ ขณะยื้อยุดเพียงชั่วครู่ก่อนจะปล่อยมือนาง เยว่หลันฮัวตะลึงงันเมื่อเห็นข้อมือมีรูปม้าตัวเล็ก ๆ ที่ถูกร้อยเป็นสร้อย ขณะองค์ชายไททามยิ้มอย่างอารมณ์ดีแล้วพูดขึ้น
“แม่นางน้อย ข้าเห็นเจ้ากำลังเลือกของอยู่ที่ร้านขายมุกริมทาง เจ้าอาจจะกำลังซื้อสร้อย ต่างหูหรือแหวนอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่เจ้ากลับถูกชนเสียก่อน ข้าก็เลยให้สร้อยข้อมืออันนี้แก่เจ้าเพื่อเป็นค่าทำขว้ญที่ข้าอาจเป็นต้นเหตุให้เจ้าเจ็บ”
“แต่นี่มันราคาแพงเกินไป” เยว่หลันฮัวพูดขึ้น แต่องค์รัชทายาทไม่สนใจพร้อมกับกระโดดขึ้นบนหลังม้าที่มีทหารองครักษ์คอยจูงเดินตามหลังมา
“ข้าหวังว่า ข้าจะได้พบเจ้าอีก” องค์รัชทายาทพูดทิ้งท้ายแล้วกระตุกบังเหียนบังคับม้าให้ยกขาหน้า
ม้าพันธุ์นักรบรูปร่างสง่างามส่งเสียงร้อง ทหารกองม้าเป่านกหวีดเสียงดังเพื่อให้รถม้า และทุกคนที่ขี่ม้าอยู่บนท้องถนนให้หลบเข้าข้างทาง แล้วองค์รัชทายาทไททามก็ควบม้าห่างออกไปอย่างรวดเร็วขณะที่สายตาของเขายังคงหันมามองเยว่หลันฮัว
องค์ชายเทียนมาแม้จะครบม้าห่างจากนางมาไกลแล้ว แต่กลิ่นหอมละมุนของนางยังคงติดจมูกและเข้าไปในโลดประสาท หัวใจของเขารู้สึกอาลัยอาวรณ์อย่างบอกไม่ถูกขณะที่ขี่ม้าห่างนางไปทุกขณะ เขาตัดสินใจหันบังเหียนกลับ ทหารม้าที่ตามมาพากันหันกลับอย่างตั้งตัวไม่ติด แล้วครบม้าตามไปอารักขาองค์รัชทายาทขณะที่ควบม้าอย่างรวดเร็วราวกับพายุ
องค์รัชทายาทไททามควบม้ากลับมาที่เดิมกวาดตาไปรอบ ๆ กระตุกบังเหียนบังคับให้ม้าวิ่งออกไปยังถนนใกล้เคียง แล้วทะลุกลับมาถนนเส้นหลักที่เดิม เขาขี่ม้าวนเวียนไปมาอยู่อย่างนี้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ทว่าก็ไร้วี่แววของแม่นางน้อย
หลังต้นไม้ถนนฟากอีกหนึ่ง เยว่หลันฮัวแอบมององค์รัชทายาทที่กลับมาตามหานางอีกครั้ง นางได้เปลี่ยนเป็นชุดผู้ชายลูบสร้อยข้อมือที่องค์รัชทายาทสวมให้ที่ข้างซ้าย เพียงชั่วขณะก็มีเสียงพ่อของนางพูดดังมาจากข้างหลัง
“กลับบ้านกันเถอะลูก” หลู่เจียพูดน้ำเสียงอ่อนโยน
เยว่หลันฮัวก้าวขึ้นไปนั่งคร่อมบนอานม้า บนถนนในเวลานั้นไม่ค่อยมียวดยานสัญจร เยว่หลันฮัวจับบันเหียนใช้ม้าเดินเอื่อยสวนกับม้าสีทองขององค์รัชทายาทไททามที่เดินไร้เรี่ยวแรงไม่ต่างกับนาง
ฝากกด ถูกใจ คอมเม้นอย่างสร้างสรรค์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ แค่นี้หัวใจของผู้เขียนก็พองโตแล้วค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เรื่องนี้แต่งขึ้นเอง ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มใด ๆ ไม่เชื่อมโยงกับเรื่องใด หากกระทบถึงผู้ใดก็ขอกราบอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เรื่องนี้ผู้เขียนเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว หากลอกเลียน ดัดแปลง คัดลอก ขยายส่วนหนึ่งส่วนใด ในทางอิเล็กทรอนิกส์หรือทางใดๆก็ตาม มีโทษตามกฎหมายสูงสุด
ฝากติดตามด้วยนะคะ
ขอแสดงความนับถือ
ขอบคุณค่ะ
ผลงานอื่นๆ ของ หุบเขาชมจันทร์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ หุบเขาชมจันทร์
ความคิดเห็น